กระต่ายฉี่เป็นเลือด / กระต่ายฉี่มีเลือดปน (Urolithiasis)

กระต่ายฉี่เป็นเลือด หรือ กระต่ายฉี่มีเลือดปน ถือเป็นอาการป่วยที่ต้องเฝ้าระวังและสังเกต โดยทั่วไปแล้วมักเกิดจากความผิดปกติที่ตำแหน่งอวัยวะสำคัญ 2 อย่าง คือ กระเพาะปัสสาวะหรือมดลูก เพราะทั้งสองอวัยวะล้วนเชื่อมต่อมาที่ตำแหน่งอวัยวะเพศ ดังนั้น กรณีที่เจ้าของพบอาการ คือ กระต่ายฉี่เป็นเลือดหรือฉี่มีเลือดปน อาจสงสัยความผิดปกติที่ทั้งสองตำแหน่งดังที่กล่าวมา และต้องให้สัตวแพทย์ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

ปัสสาวะกระต่ายมีลักษณะแบบไหนบ้าง
ปัสสาวะกระต่ายปกติ

ปัสสาวะเป็นเลือด หรือ ปนเลือด

ปัสสาวะเป็นตะกอนแคลเซียม

กระต่ายฉี่เป็นเลือด / มีเลือดปน ที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ
ปัสสาวะกระต่ายมีลักษณะเฉพาะที่พบเจอได้ตามปกติคือ สีเหลือง เหลืองใส สีน้ำตาลเข้ม สีส้ม อาจแตกต่างกันตามพฤติกรรมการกินน้ำและอาหาร หรือแม้แต่พบตะกอนขาวขุ่นก็เกิดขึ้นได้ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วกระต่ายมีความเข้มข้นของแคลเซียมมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ อีกทั้งไตของกระต่ายจะสามารถกรองเอาแคลเซียมออกได้ถึง 44% และมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ดังนั้น ปัสสาวะของกระต่ายจะมีความเข้มข้นของแร่ธาตุโดยเฉพาะแคลเซียมที่สูง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กระต่ายเกิดนิ่วหรือตะกอนนิ่วได้ง่าย
สาเหตุ
หากพิจารณาเฉพาะประเด็นที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ มักมีสาเหตุ ดังนี้
- กรรมพันธุ์
- ติดเชื้อแบคทีเรีย
- โรคไต กรองแคลเซียมออกมามากกว่าปกติ
- โรคอื่นๆ ของกระเพาะปัสสาวะ เช่น เนื้องอก มะเร็ง ผนังกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- โรคอ้วน โรคข้ออักเสบ ปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะได้น้อยลง ทำให้อั้นปัสสาวะ
- ค่า pH ปัสสาวะเปลี่ยนไปจากปกติ
- พฤติกรรมกินน้ำน้อย
อาการที่พบได้
- นั่งกกไข่ ปวด เกร็งท้อง กัดฟัน โดยเฉพาะตอนปัสสาวะ หรือการเบ่งปัสสาวะนาน เบ่งแรง ร่วมกับการส่งเสียงร้อง
- ปัสสาวะบ่อย ใช้เวลานาน หรือปัสสาวะเป็นหย่อม กองเล็กๆ หรือเป็นหยด และอาจจะพบว่ามีตะกอนปัสสาวะเยอะกว่าปกติ
- ปัสสาวะสีแดงปนเลือดสด หรือ ปนลิ่มเลือด
- ปัสสาวะเปื้อนก้นและมีคราบตะกอนสีขาวเปื้อนก้น
- ซึม เบื่ออาหาร
การตรวจวินิจฉัยโรค
- ตรวจปัสสาวะ Urinalysis: ตรวจการติดเชื้อแบคทีเรีย ความเข้มข้นปัสสาวะ ชนิดตะกอนนิ่ว
- X-ray: ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ
- Ultrasound: ไต กระเพาะปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติของโครงสร้างในอวัยวะต่างๆ
- ตรวจเลือด ตรวจค่าไต ค่าตับ เพื่อหาค่าการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะต่างๆ
การรักษา
- ถ้าเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ผ่าตัดเอานิ่วออก (cystotomy)
- ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด (Fluid therapy) เพื่อลดค่าไต จะทำในกรณีค่าไตขึ้นสูงผิดปกติ และเพื่อลดความเข้มข้นของน้ำปัสสาวะให้เจือจางขึ้น
- ให้ยาลดปวดในกรณีที่ปวดท้อง
- ป้อนน้ำเสริม 100 ml/kg/day
- เปลี่ยนอาหาร ลดอาหารชนิดที่แคลเซียมสูง ลดอาหารเม็ด
ฉี่เป็นเลือด / มีเลือดปน ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์กระต่ายเพศเมีย
ระบบสืบพันธุ์ของกระต่ายเพศเมีย ประกอบด้วย รังไข่ มดลูก และช่องคลอด ไม่มีช่วงรอบเดือนแบบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ แต่ร่างกายจะพร้อมผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา โรคระบบสืบพันธุ์ที่มักพบได้ เช่น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Uterine adenocarcinoma) มดลูกอักเสบ (Pyometra) ท้องเทียม (Pseudopregnancy)

สาเหตุ
หากพิจารณาเฉพาะประเด็นที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ของกระต่ายเพศเมีย มักมีโรคที่เกี่ยวข้องดังนี้
- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Uterine adenocarcinoma): กระต่ายตัวเมียช่วงอายุมากกว่า 3-4 ปี อาจพบมะเร็งมดลูกได้ถึง 60% และยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ในช่องท้อง มักจะพบว่ามีเลือดออกจนทำให้เสียชีวิตได้
- ภาวะมดลูกอักเสบเป็นหนอง (Pyometra)
- มดลูกติดเชื้อ (Uterine infection) เกิดได้ช่วงที่ผสมพันธุ์ หลังคลอดลูก หรือเป็นหลังจากเกิดภาวะ ท้องเทียม
- มดลูกเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ (Endometritis) ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ลุกลามมาจากช่องคลอดหรือปากมดลูก
- มดลูกอักเสบ (Metritis) คือ ภาวะที่มดลูกเกิดการอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากภาวะรกค้าง ผสมพันธุ์หลายครั้ง หรือหลังคลอดลูก มีกมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ซึม อ่อนแรง น้ำหนักลดลง ท้องขยายใหญ่ มีเมือกออกมาจากอวัยวะเพศเป็นลักษณะหนองสีเหลืองหรือสีเขียวข้น
- ภาวะท้องเทียม (Pseudopregnancy) คือ ภาวะเลียนแบบการตั้งครรภ์จริง กระต่ายตัวเมียมีการตกไข่จากฮอร์โมนเพศ โดยจะตอบสนองต่อการกระตุ้นทางเพศจากกระต่ายตัวอื่นหรือกระต่ายตัวผู้ รวมทั้งแสดงพฤติกรรมของการตั้งครรภ์ เช่น ดึงขนจากหน้าท้องและหน้าอก สร้างรัง ก้าวร้าว ต่อมน้ำนมมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ หรือมีน้ำนม
การตรวจวินิจฉัยโรค
- X-ray: ระบบสืบพันธุ์ มดลูก และการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆ
- Ultrasound: รังไข่ มดลูก เพื่อหาความผิดปกติของโครงสร้างในอวัยวะต่างๆ
- ตรวจเลือด ตรวจค่าไต ค่าตับ เพื่อหาค่าการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะ
- เพาะเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial culture) ในกรณีมดลูกเสบมีหนอง
- การตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy) กรณีมะเร็งมดลูก
- การตรวจเซลล์จากเมือกที่ถูกขับออกจากช่องคลอด (Vaginal cytology) เป็นการตรวจวิเคราะห์เซลล์ที่เก็บจากช่องคลอด เพื่อหาความผิดปกติของเซลล์
การรักษา
- ผ่าตัดทำหมัน (Ovariohysterectomy)

- ให้ยาลดปวด ยาปฏิชีวนะ
- ดูแลเรื่องอาหาร การกินและประเมินอุจจาระ
- ถ้าอาการรุนแรงมาก (Severe) แนะนำทำ การุณยาฆาต (Euthanasia)
โรงพยาบาลสัตว์ ดารินรักษ์ (Darin Animal Hospital)
214 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 10 (รามอินทรา 14) จรเข้บัว ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230