โรคที่พบบ่อยในแกสบี้ (Diseases of Guinea Pigs)

แกสบี้เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก แต่พวกมันมักจะไม่แสดงอาการเจ็บป่วยจนกว่าโรคจะรุนแรง ดังนั้นเจ้าของควรหมั่นสังเกตความผิดปกติอย่างใกล้ชิดเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็ว
สัญญาณทั่วไปของแกสบี้ที่ไม่สบาย
การรู้สัญญาณเตือนเหล่านี้จะช่วยให้คุณจับตาดูสุขภาพของแกสบี้ได้:
- ไม่กินอาหาร/กิจกรรมลดลง: แกสบี้ที่ไม่กินอาหารจะแสดงอาการอ่อนเพลียและขาดสารอาหารอย่างรุนแรง บางทีอาจมีการพยุงตัวเองผิดปกติด้วย การกดหรือพับลำตัวลง บ่งบอกถึงความเจ็บปวดภายใน
- การขับถ่ายผิดปกติ: ถ้าแกสบี้ไม่ถ่ายอุจจาระ หรือถ่ายอุจจาระก้อนเล็กมากๆ แสดงว่ามีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร
- ระดับกิจกรรมลดลง (Activity): หากกิจกรรมลดลงมาก หรือลูกแกสบี้ขยับตัวน้อยกว่าปกติ ควรสงสัยภาวะก้อนขน (hairball)
- ภาวะขาดน้ำ (Dehydration): แกสบี้อาจมีอาการผอม ซึม และแสดงอาการขาดน้ำอย่างเห็นได้ชัด โรคไต (แม้จะยังไม่แสดงอาการชัดเจน) อาจตรวจพบได้จากการตรวจเลือด โดยจะพบค่าครีอะตินิน (creatinine) และ BUN สูงขึ้น
- จมูกเปียก/มีน้ำมูก: หากพบว่าจมูกของแกสบี้เปียกหรือมีน้ำมูกไหล อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย Bordetella
หากพบว่าหนูแกสบี้มีอาการเหล่านี้ ควรพาไปที่โรงพยาบาลรักษาแกสบี้ เพื่อที่จะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที
โรคที่พบบ่อยได้ในกลุ่มแกสบี้
1. ปัญหาฟันสบกันผิดปกติ (Malocclusion)
Malocclusion คือภาวะที่ฟันหน้าหรือฟันกรามของแกสบี้ไม่สบกันตามปกติ ทำให้เกิดปัญหาในการกินอาหารอย่างรุนแรง:
- สัญญาณ: ฟันหน้าบนและล่างยาวเกินไป มักเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงฟันกรามที่ยาวเกินไป
- ผลกระทบ: ฟันที่ยาวผิดปกติจะขัดขวางการกลืนกิน ทำให้แกสบี้กินอาหารไม่ได้ นำไปสู่ภาวะขาดสารอาหาร
- สาเหตุ: มักเกิดจากการได้รับอาหารที่ไม่เพียงพอ หรือมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ (เช่น ไม่ลับฟันกับหญ้า) ไม่ใช่ปัญหาทางพันธุกรรมแต่กำเนิด
- ความเชื่อมโยงกับวิตามินซี: เชื่อว่าการขาดวิตามินซีแบบเรื้อรังสามารถทำให้เกิดโรคปริทันต์ (periodontal disease) ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพฟันได้

2. โรคขาดวิตามินซี (Hypovitaminosis C)
แกสบี้ไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง จึงต้องได้รับจากอาหาร การขาดวิตามินซีอย่างรุนแรงเรียกว่า “Scurvy”
- การแสดงอาการ: อาการของการขาดวิตามินซีจะปรากฏให้เห็นภายใน 2 สัปดาห์หลังจากการขาดวิตามิน
- ผลกระทบต่อร่างกาย:
- วิตามินซีจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน การขาดวิตามินซีทำให้เกิดอาการขาเจ็บ (lameness) เดินกะเผลก
- มีอาการบวมหรือเลือดออกบริเวณข้อต่อกระดูกอ่อน (costochondral junction) และเหงือก
- ปัญหาในช่องปาก:
- พบการหยุดชะงักของการงอกของฟัน (คล้ายกับโรคปริทันต์) ทำให้ฟันกลับมางอกใหม่ไม่ได้
- อาการไม่จำเพาะ เช่น น้ำลายไหลเนื่องจากฟันไม่สบกัน และอาจมีภาวะลำไส้เคลื่อนที่ช้า (ileus) ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต
- การรักษาและป้องกัน:
- การเสริมวิตามินซี: ให้วิตามินซีเสริมแบบกิน (oral supplement) ขนาด 100 mg/kg จากนั้นหลังจากแกสบี้กินได้ 1 สัปดาห์ ให้ปรับเป็น 50 mg/kg เพื่อการบำรุงรักษา (maintenance)
- การป้องกันในระยะยาว: เลือกอาหารเม็ดที่น่าเชื่อถือ เสริมผักสดสีเขียว และผสมวิตามินซีชนิด Ascorbic acid ในน้ำดื่ม 200-400 mg/L ทุกวัน
- ข้อควรระวัง: วิตามินซีในอาหารสำเร็จรูปหรือวิตามินเสริมมักจะไม่คงตัวหรือมีปริมาณไม่เพียงพอ หากผสมวิตามินซีในน้ำ ควรเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ และไม่ควรผสมในภาชนะที่ไม่ทึบแสง
- ลำดับการรักษา: หากแกสบี้มีภาวะฟันสบกันผิดปกติ (malocclusion) ร่วมด้วย ควรให้วิตามินซีรักษาภาวะ Hypovitaminosis C ก่อน แล้วค่อยทำการเปิดปากเพื่อรักษา malocclusion
3. โรคปอดอักเสบ (Pneumonias)
โรคปอดอักเสบเป็นการอักเสบของปอดที่มีการติดเชื้อ
- Bacterial Pneumonias ที่พบบ่อยคือ:
- Bordetella bronchiseptica: รุนแรงมาก
- Mycoplasma
- Streptococcus pneumonia
- อาการ:
- มีขี้ตาเกรอะกรัง (mucopurulent oculo-nasal discharge) หรือมีสารคัดหลั่งจากตาและจมูก
- หายใจผิดปกติ หอบ หรือมีเสียงดัง
- ไอ จาม
- ซึม เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด
- อาจหายใจลำบากและเสียชีวิตได้

- สาเหตุ: มักเกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้อง เช่น สภาพแวดล้อมที่อับชื้น เลี้ยงหนาแน่นเกินไป
- การรักษาในระยะแรก: การเสริมวิตามินซี (Vit C) และการให้ออกซิเจน (O2 therapy) มักจะประสบความสำเร็จ
- สัตว์พาหะ: สัตว์ชนิดอื่น เช่น สุกร (porcine) หรือสุนัข (canine) มักจะเป็นพาหะของโรค
- การป้องกัน: สามารถใช้วัคซีนของสุกรหรือสุนัขเพื่อลดการติดเชื้อในฝูงได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาการเป็นพาหะเลย
4. โรคทางเดินอาหารอักเสบ (Gastroenteritis)
โรคทางเดินอาหารอักเสบเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงหลายชนิด โดยมักมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- สาเหตุทั่วไป:
- การใช้ยาบางชนิด: การใช้ยาบางชนิดอาจทำให้ระบบทางเดินอาหารระคายเคืองหรือติดเชื้อ
- การกินอาหารผิดปกติ: เช่น กินอาหารมากเกินไป หรือกินสิ่งที่ไม่ควรกิน
- การเปลี่ยนอาหารกะทันหัน: การเปลี่ยนชนิดอาหารโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจทำให้ระบบย่อยอาหารปรับตัวไม่ทัน
- การกินอาหารที่ไม่เหมาะสม: เช่น การกินอาหารที่เน่าเสีย

- โรคทางเดินอาหารอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Enteritis):
- เชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อย: E. coli, Clostridium pilliforme (ซึ่งทำให้เกิดโรค Tyzzer’s disease), และ Campylobacter spp.
- ปัจจัยกระตุ้น: มักมีสาเหตุมาจากความเครียดและการเปลี่ยนแปลงอาหาร ซึ่งทำให้ภูมิต้านทานของสัตว์ลดลงและแบคทีเรียฉวยโอกาสเจริญเติบโตได้
- การรักษา:
- Fluid therapy (การให้สารน้ำ): เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะขาดน้ำ
- Supportive care (การรักษาประคับประคอง): ดูแลอาการทั่วไป เช่น ลดไข้ บรรเทาอาการปวด
- ABO (Antibiotics): การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
โรงพยาบาลสัตว์ ดารินรักษ์ (Darin Animal Hospital)
214 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 10 (รามอินทรา 14) จรเข้บัว ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230